ออกตัวก่อนเลยว่า ผมเป็นคนชอบกินของทอดมาก ตั้งแต่เล็กจนโต ก็ทานอาหารฟาสต์ฟู้ด ไก่ทอด เฟรนช์ฟราย มันฝรั่งกรอบ และของทอดอื่นๆ อีกมากมาย เคยพยายามลดของทอด ของมัน แต่มันฝืนมาก แพ้ใจตัวเองทุกที
แล้วโชคชะตาก็ทำให้มนุษยชาติมีความหวังอีกครั้ง เมื่อฟิลิปส์ แบรนด์ที่เราคุ้นเคยกับการทำหลอดไฟมาหลายชั่วอายุคน ได้ออก “หม้อทอดไร้น้ำมัน” มาให้กับพวกเรา หลังจากลองใช้หม้อทอดนี้มาประมาณ 1 เดือน กินมาหลายเมนู พูดเลยว่าประทับใจมาก เลยขอสรุปเป็นรีวิวสำหรับใครที่ยังไม่เคยรู้จักหม้อทอดตัวนี้นะครับ
แกะกล่อง ดูตัวเครื่องกัน
ตัวเครื่อง Philips Airfryer ไม่มีความซับซ้อนเลยครับ แกะกล่องออกมาเราก็พบตัวเครื่อง คู่มือ และใบรับประกัน แค่นั้น เรามาดูตัวเครื่องกันเลยดีกว่า
ตัวเครื่องแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่ๆ คือ
- ตัวเครื่อง มีความมั่นคงแข็งแรง ภายนอกสวยงามและล้ำสมัย
- ตัวฐาน ฐานลิ้นชักสำหรับหมุนวนอากาศ และรองรับน้ำมันที่ไหลออกจากชิ้นอาหาร
- ตะแกรงทอด สำหรับใส่วัตถุดิบเพื่อทอด เอาไว้ใส่ในฐานลิ้นชักอีกที
ซึ่งตะแกรงทอดนี้มีความพิเศษมากเพราะสามารถถอดล้างได้ง่ายๆ ตะแกรงสามารถถอดเป็นชิ้นๆ เพื่อล้างได้ทุกซอกมุม
ลองประกอบตัวเครื่องขึ้นมาก็พบว่ามีปุ่มไม่เยอะ เอาจริงๆ เดี๋ยวนี้ไมโครเวฟที่บ้านผมมีปุ่มเยอะกว่านี้อีก ซึ่งปุ่มทั้งหมดมีตามนี้เลยครับ
- ปุ่มแป้นหมุน เป็นปุ่มหลักที่ใช้ทั้งปรับและกดคอนเฟิร์ม (จริงๆ ใช้ปุ่มนี้ปุ่มเดียวจบเลย)
- ปุ่มเลือกอุณหภูมิ
- ปุ่มเลือกโปรแกรมตามเมนู 4 ประเภท (ของทอดแช่แข็ง ทอดไก่ ทอดปลา ทอดเนื้อ)
- ปุ่มตั้งเวลา
- ปุ่มเปิดปิดเครื่อง
- ปุ่มอุ่นอาหารรอ ใช้เวลาที่อาหารเสร็จแล้วแต่ยังไม่พร้อมจะทาน สามารถอุ่นรอได้ถึง 30 นาที
ในการใช้งานจริง เราใช้แต่ปุ่มหมายเลข 1 ปุ่มเดียวเลยก็ได้ครับ ที่เหลือเราจะไม่ค่อยได้ใช้เลย เหมือนไมโครเวฟที่ต่อให้ปุ่มเยอะแยะยังไง ก็ใช้แค่ไม่กี่ปุ่มเหมือนเดิม
ว่าด้วยการทอด
น้อยคนนักที่จะเข้าใจว่าการทอดจริงๆ แล้วคืออะไร จริงๆ การทอดคือการใช้น้ำมันเป็นเครื่องมือถ่ายเทความร้อนไปสู่เนื้อในของอาหารชนิดต่างๆ ส่งผลให้โมเลกุลน้ำและความชื้นเดือดออกไปจากอาหารอย่างรวดเร็ว ทำให้มีความกรอบ และทำให้โครงสร้างของโมเลกุลอาหารเปลี่ยนไป คาร์โบไฮเดรตและโปรตีนจะสูญเสียสภาพธรรมชาติ จุลินทรีย์ต่างๆ ที่อยู่ในอาหาร (ซึ่งจะทำให้อาหารเน่าเสีย) ถูกกำจัดออก
(อ้างอิงจาก http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/0347/frying-การทอด)
ซึ่งกระบวนการทอดนี้ ถูกนำมาใช้ในการประกอบอาหารและการผลิตในเชิงอุตสากรรมมากมาย ตัวอย่างเช่น การผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งใช้การทอดทำให้โมเลกุลน้ำในเส้นบะหมี่เดือดและเกิดความกรอบที่เส้นบะหมี่ ทั้งยังไม่เน่าเสีย สามารถเก็บไว้ได้นานเพราะจุลินทรีย์ถูกกำจัดไประหว่างการทอด
คำถามแรกในใจ : ทอดแบบไม่เติมน้ำมัน รสชาติจะกินได้จริงเหรอ?
ผมก็มีคำถามนี้ผุดขึ้นมาเหมือนกับทุกคนนะครับ ของทอดไม่มีน้ำมัน มันจะกินได้จริงๆ เหรอ ตอนที่ทดลองใช้หม้อทอดไร้น้ำมันครั้งแรกก็ยังงงๆ อยู่ว่าถ้าเราไม่ใช้น้ำมันจะเป็นการทอดได้ยังไง? มันจะอร่อยไหม? มันจะต่างจากการอบยังไง? ปรากฎว่าจริงๆ แล้ว ไม่ต้องใช้น้ำมันเราก็ทอดได้! เพราะปกติในอาหารเกือบทุกชนิดจะมีน้ำมันผสมอยู่ในไขมัน และถ้าเราสามารถทำให้ความร้อนสามารถถ่ายเทเข้าไปในเนื้ออาหารได้เหมือนการใช้น้ำมัน ก็สามารถทำให้โมเลกุลน้ำภายในอาหารเดือดได้เช่นกัน #งงเด้
อธิบายง่ายๆ ตัวหม้อทอดไร้น้ำมัน Philips Airfryer นี้ ใช้ “อากาศ” แทนน้ำมันในการทอดนั้นเอง
ลองนึกภาพอากาศที่ถูกทำให้ร้อนและเป่าด้วยแรงดันสูง โมเลกุลของอากาศ (ซึ่งเล็กกว่าโมเลกุลของน้ำมัน) ก็จะสามารถแทรกตัวเข้าไปในเนื้ออาหารและถ่ายเทความร้อนให้กับอาหารได้ โมเลกุลน้ำก็จะเดือดและลดความชื้นลง เนื้ออาหารไม่ว่าจะเป็นแป้ง เนื้อสัตว์ ก็จะกรอบขึ้น อีกทั้งยังทำให้ไขมันแตกตัวเป็นน้ำมันเมื่อโดนความร้อน ไหลออกมาจากอาหาร เหมือนกับการ “รีดน้ำมัน” ออกจากเนื้ออาหารอีกด้วย
การใช้งาน ง่ายไม่ต่างจากไมโครเวฟ
ใช้ง่ายมากครับ จริงๆ หลักการไม่ได้ต่างจากการใช้ไมโครเวฟเลย แค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆ
- หมุนปรับความร้อน กดปุ่ม Confirm
- หมุนปรับตั้งเวลา กดปุ่ม Confirm
- กดปุ่ม Confirm อีกที จบ
แต่ผลลัพธ์ที่ได้คืออาหารที่อร่อยกว่าการใช้เตาไมโครเวฟหลายเท่า ผมก็อ่านคู่มือคร่าวๆ แล้วลองใช้งานตอนแรกๆ ลองผิดลองถูกกันไป ถ้ายังไม่กรอบก็เพิ่มเวลา ผ่านไปประมาณ 3 ครั้งตอนนี้ก็ใช้งานได้อย่างคุ้นเคย
จริงๆ ไมโครเวฟมีประโยชน์มากนะครับ เราใช้กันมานาน แต่กับอาหารที่ต้องการความกรอบ หรือเวลาเราซื้อพิซซ่า ไก่ทอด หรือพวกขนมเบเกอรี่มาแล้วทานไม่หมด พอเอามาอุ่นกินมันก็ไม่อร่อย หรือจะเอาไปอุ่นกับพวกกระทะอเนกประสงค์ที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน ก็จะร้อนแค่ผิวๆ ไม่ได้กรอบถึงเนื้อใน แต่พอเอามาลองใช้กับหม้อทอดนี้ มันเหมือนเรา “ชุบชีวิต” อาหารขึ้นมาได้ใหม่ กรอบ อร่อย ชีสยืดได้เหมือนเพิ่งออกมาจากเตาเลยครับ สุดยอด!
เทคโนโลยีมีความสำคัญแค่ไหน Turbostar Rapid Air Technology มีความสำคัญจริงรึเปล่า?
โดยทฤษฏีแล้วเนี่ย ผมก็คิดนะว่าการทอดไม่ใช้น้ำมันคงทำได้ไม่ยาก ปรากฎว่า ยังไม่เคยมีใครทอดอาหารด้วยอากาศได้มาก่อน จนกระทั่ง Philips Airfryer มีการวิจัยเพื่อสร้างเทคโนโลยีใหม่เรียกว่า Turbostar ซึ่งเป็นการออกแบบทิศทางการไหลเวียนของอากาศภายในหม้อทอด ทำให้อาการสุกได้ทั่วถึง ไม่มีการเก็บกักความชื้น และกรอบอร่อยได้โดยไม่มีใครเลียนแบบได้จริงๆ
ตอนที่ผมไปเดินดูเครื่องที่ห้าง จริงๆ ก็มีหลายแบรนด์ที่ทำหม้อทอดลักษณะนี้ออกมา ขายถูกกว่าด้วย แต่พอลองสังเกตดีๆ มันก็ไม่ได้มีการออกแบบอะไรพิเศษเลย (เป็นเหมือนของเลียนแบบแค่ภายนอก) ลองถามพนักงานขาย ตอนแรกก็เชียร์ว่าทำได้เหมือนกัน แต่พอถามจี้ลงไปเรื่อยๆ ก็อ้ำๆ อึ้งๆ ยิ่งเจอบูทที่ให้ลองชิมอาหารที่ทำขึ้นมา ก็พบความแตกต่างได้อย่างชัดเจนเลยครับ
อร่อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือน้ำมันลดลง 80%*
*เปรียบเทียบกับการทอดมันฝรั่งสดใน Deep fryer ด้วยน้ำมันท่วม
ผมลองใช้งานมาประมาณ 1 เดือน ตอนนี้มีของทอดที่ผ่านการทำด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน Philips Airfryer มาหลายเมนูมาก ไล่ตั้งแต่เฟรนช์ฟรายส์ของโปรด ไก่ทอด ไส้กรอก แหนม พาย นักเกต ปลาทอด เบคอนทอด หมูกรอบ ฯลฯ พูดง่ายๆ คือ เมนูทอดที่ไม่ใช่พวกชุบแป้งเหลวๆ ทอดเนี่ย ทำมาหมดแล้วครับ ความรู้สึกตอนแรกอาจจะรู้สึกแห้งกว่าของทอดปกติหน่อยๆ แต่พอทานไปเรื่อยๆ กลับชอบซะอีก ไม่มัน ไม่เยิ้ม รู้สึก Healthy และสุขภาพดีขึ้นเลยครับ ฮ่าๆ ลองดูวีดีโอนี้ได้ว่ามันดีงามจริงๆ
ภาพจำที่เห็นทุกครั้งเวลาทอดของมันๆ คือ ตอนเอาอาหารออกมาจากเครื่องแล้ว จับฐานเทออกมาเพื่อล้าง จะเห็นน้ำมันจากเนื้อของอาหาร ไหลออกมาจ๊อกๆๆ เห็นทุกครั้งก็รู้สึกทุกครั้งเลยว่า ที่ผ่านมาเรากินอาหารมันๆ แถมยังเติมน้ำมันลงไป แต่ละวันเรากินไขมันเข้าไปเท่าไหร่เนี่ย? เดี๋ยวนี้เวลาเจอของทอดตามร้านอาหารก็เลยพยายามลด กลับไปทำกินเองที่คอนโดดีกว่า สบายใจกว่าเยอะเลย
สรุป
- Philips Airfryer หม้อทอดไร้น้ำมัน ใช้อากาศถ่ายเทความร้อนแทนน้ำมัน ทอดด้วยเทคโนโลยี Turbostar ทำให้อาหารสุก กรอบ ไม่ต้องเติมน้ำมันเพิ่มเติมลงไป
- สามารถรีดน้ำมันออกจากอาหารมันๆ ได้ จะเห็นน้ำมันไหลออกมาจากฐานเวลาเทออกมา
- อาหารอร่อยมาก ทำอาหารได้หลากหลายชนิด กรอบอร่อยเหมือนกัน แต่น้ำมันน้อยลงถึง 80%
- สามารถชุบชีวิตอาหารที่ซื้อมาก่อนหน้า ให้กลับมากรอบอร่อยได้เหมือนเดิม
- ใช้งานง่ายไม่ต่างจากเตาไมโครเวฟ ถอดล้างได้ทุกส่วน ทุกซอกมุม
- ไม่สามารถทำอาหารประเภทน้ำ แกง อาหารชุบแป้งเหลวๆ ได้
- เมนูอาหารไม่ได้จำกัดแค่ของทอด ลองเข้าไปดูที่เพจ Airfryer Recipe – Thai Style หรือ อร่อยกับ Airfryer ได้เลย
- แถม! Philips Airfryer ยังมีแอพพลิเคชั่นสูตรอาหารพร้อมวิธีการทำ ลองโหลดมาเล่นก่อนเลยครับ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Philips Airfryer