ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่เพิ่งซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันในช่วง Covid ที่ผ่านมา และตัวเร่งปฏิกิริยาที่สำคัญ คือ facebook groupFacebook group คือพื้นที่ที่เปิดให้ผู้ใช้ facebook สามารถเข้ามารวมกลุ่มกันเพื่อพูดคุย และสร้าง Community แบ่งปันสิ่งที่สนใจร่วมกันได้ โดยลักษณะเหมือนเวบบอร์ดสมัยก่อน ทุกคนสามารถโพสในกรุ๊ปและเห็นโพสทั่วถึงกัน หลายแบรนด์หลายกลุ่มจึงหนีจาก facebook page มาทำ facebook group ด้วย เพราะมี reach สูงกว่าโดยทาง facebook เปิดให้เลือกความเป็นส่วนตัวของ group ได้ 3 แบบ คือ สาธารณะ กลุ่มปิด (เฉพาะสมาชิกเข้าได้) กลุ่มลับ (ต้องเข้าด้วยการเชิญเท่านั้น)แต่ไม่ใช่ว่า group จะเป็นพื้นที่ทำเลทองสำหรับทุกคน โดยเฉพาะแบรนด์ การเกิด group ต้องยืนอยู่บนความเป็นธรรมชาติ แบรนด์นั้นต้องมี awareness สูง มีแฟนประจำที่รักแบรนด์จริง เพราะเป็นพื้นที่แบบ Community ที่แบรนด์ใหม่ๆ ยังทำไม่ได้ในระยะเริ่มต้น หรือแบรนด์ที่ไม่ได้มี value ที่จะถูกพูดถึงก็ยากที่จะทำให้เกิดได้วันนี้เรามารู้จักกับ facebook group ให้ดีขึ้นนะครับผมถือวิสาสะแบ่งประเภทของ facebook group เป็นทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้
1. Brand – Fanclub
เป็น group ที่สนใจในแบรนด์เดียวกัน เรียกว่าเป็นแฟนของแบรนด์นั้นๆ และอยากมีส่วนร่วมพูดคุย แบ่งปันอะไรเกี่ยวกับแบรนด์ ตัวอย่างเช่น apple, xiaomi, Samsung ไปจนถึงแบรนด์ที่เป็น Iconic มีฐานแฟนเยอะอย่าง Blackpink, Starwars หรือ BNK48ใน group ลักษณะนี้ค่อนข้างตรงไปตรงมา คือคนที่ชอบและรักแบรนด์นี้จะเข้ามาพูดคุยและแบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวกับแบรนด์นี้กัน ทำให้เกิด Brand Engagement ที่แน่นหนาขึ้น หรืออาจไปถึงขั้นเกิดการซื้อขายของ สนับสนุนแบรนด์นั้นๆ
2. Topics
Group ประเภทนี่จะเกิดจากความสนใจในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งที่เหมือนกัน กรณีของหม้อทอดไร้น้ำมันก็อยู่ในประเภทนี้ จากกลุ่ม “สมาคมเราจะผอมด้วยเมนูจากหม้อทอดไร้น้ำมัน” การพูดคุยแบ่งปันใน group จะเน้นไปที่เรื่องของหัวข้อนั้นๆ โดยเฉพาะ แต่อาจไม่ติดกับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง (อาจเป็นลักษณะหมวดหมู่สินค้า) ซึ่งหัวข้ออาจจะมีตั้งแต่ การทำอาหาร การทำการตลาด สมาคมคนชอบกินแกงกะหรี่ โดยคนที่ได้ประโยชน์อาจไม่ได้เป็นแบรนด์อันดับ 1 ในตลาดเสมอไป แต่โดยมากผู้นำตลาดมักจะถูกพูดถึงบ่อย หรือไม่อาจจะมีแบรนด์ที่สามารถสื่อสารกับ Community ได้อย่างมีชั้นเชิง สร้าง engagement ได้มากกว่า เช่น กรณี Aoringo และ Freddie Rice Curry ในกลุ่มแกงกะหรี่Group ลักษณะนี้เป็นประโยชน์กับทั้งอุตสาหกรรมนั้นๆ และเป็นประโยชน์กับลูกค้า เพราะสามารถพูดคุย ถกเถียงกันได้อย่างอิสระ และสามารถทำให้อุตสาหกรรมเติบโตได้หากมี demand อยู่จริง
3. Marketplace
ช่วง Covid เราได้เห็นการเปิด group สำหรับ “ฝากร้าน” เกิดขึ้นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสถาบันการศึกษา บริษัท ประเภทสินค้าเดียวกัน ฯลฯ ซึ่งกลุ่มประเภทนี้ จะแตกต่างจากแบบอื่นเพราะมีจุดประสงค์ชัดเจน คือมาเพื่อซื้อขายเป็นหลักเกือบจะ 100% โดยก่อนที่จะมาถึงของเหล่าโควิดมาร์เก็ตเพลส จริงๆ group แบบนี้มีอยู่มาก่อนแล้ว เช่น ซื้อขายสินค้าแม่และเด็ก ซื้อขายคอนโด รถมือสอง มือถือ เสื้อผ้า และอีกมากมาย โดย facebook ยังมี option เสริมให้ หากเป็นการประกาศซื้อขายใน group เรายังสามารถเอาสินค้านี้ไปโชว์ในหน้า marketplace เพิ่มเติมได้อีก
4. Local Community
ประเภทสุดท้าย จะเป็น group ที่เกี่ยวกับชีวิตจริง เป็นกลุ่มที่อ้างอิงจากที่ทำงาน คอนโด โรงเรียน ที่มีการอาศัยอยู่ร่วมกัน เพื่อใช้สำหรับแจ้งข่าว สื่อสาร และรับข้อมูลต่างๆหากใครที่อ่านอยู่แล้ว อยากสร้าง group หรือเป็นแอดมินอยู่แล้ว ทาง facebook ก็มีข้อแนะนำในการจัดการกับ facebook group เอาไว้ให้แล้ว สามารถดูได้จากลิงค์นี้เลยครับhttps://www.facebook.com/community/โอกาสสำหรับนักการตลาดกับ facebook group มีอยู่มากมาย ขอเก็บไว้เล่าต่อตอนหน้านะครับ